รถซื้อขาย ง่ายนิดเดียว

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บทความประจำเดือน กันยายน 2556



วิกฤติรถมือสอง ปลายปี 2556
                สวัสดีค่ะ พบกับน้องณีอีกเช่นเคยนะคะ เดือนของคุณแม่ก็ผ่านไปแล้ว ทุกคนคงได้สัมผัสกับสภาพอากาศที่หลากหลายนะคะ ไม่ว่าจะแบบตื่นเช้ามาเจอแดดร้อนๆ พอออกไปถึงที่ทำงานก็เจอฝนตกแบบมืดฟ้ามัวดิน ดีนะคะที่ถึงออฟฟิตพอดี หรือแบบว่าตื่นเช้ามาฝนยังตกค้างคืนอยู่เลย ไม่รู้จะหยุดเมื่อไร ต้องวัดใจว่าลุยฝนไปทำงานดีมั้ยนะ.. แบบนี้ก็เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต จะทำอะไรก็ลำบาก เปรียบกับสถานการณ์ของตลาดรถมือสองก็เช่นกัน ที่ซบเซาไปตามๆกัน
                เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ รถมือสอง เป็นธุรกิจที่มีตลาดขนาดใหญ่ซึ่งมีผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ตั้งแต่ผู้ประกอบการรายย่อยที่จอดขายริมทาง ผู้ประกอบการณ์ที่ขายตามเต๊นท์ไป จนถึงผู้ประกอบการณ์ที่มีศูนย์รถมือสองขนาดใหญ่ ตั้งแต่ผู้ที่มีรถยนต์มือสอง ขาย 1-2  คันไปจนถึง 100 คัน
จากข้อมูลที่มีนะคะเราไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ว่าในแต่ละปีรถยนต์มือสองถูกขายไปเป็น จำนวนกี่คัน เนื่องจากว่า ตลาดรถมือสอง มีการแลกเปลี่ยนหมุนเวียนอาจจะขายให้ผู้ซื้อหรือขายให้ผู้ขายรถด้วยกันแล้ว ไปขายต่อก็ได้ จึงยากที่จะคำนวนได้ว่าในแต่ละปีขายไปจำนวนเท่าไร แต่ตามที่สรุปได้ก็น่าจะเป็น
2 เท่าตัวของยอดขายรถใหม่ในปีนี้  ช่วงนี้ก็ถือว่าสถานการณ์ ตลาดรถยนต์มือสอง ได้ถดถอยลงอย่างมากทั้งในเรื่องของ ราคารถ และยอดขาย

            ในเรื่องของ ราคารถมือสอง ที่ลดลงเป็นอย่างมาก ได้มีกลุ่มที่ศึกษาได้เก็บข้อมูลมาจากผู้จัดการบริษัทประมูลรถมือสองแห่งหนึ่งกล่าว ว่า ในปีนี้ราคาประมูลรถยนต์มือสองในส่วนของรถนั่งราคาลดถอยลงถึง 10 %  แต่สำหรับรถปิคอัพลดไปถึง 7-8%   มีรถเข้ามาใหม่ล้นตลาดประมูล จากเดิม 2,000 คัน แต่ในตอนนี้มีรถเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวคือจำนวน 4,000 คัน ทำให้ตลาดประมูลรถมีพื้นที่ไม่เพียงพอในการจอดรถจนต้องหาเช่าพื้นที่จอดรถ เพิ่มเติม  สาเหตุหลักที่ทำให้วิกฤตินี้เกิดขึ้นเนื่องจากในปี 2555 มีโครงการรถคันแรก จึงส่งผลทำให้ค่ายรถที่ไม่ได้รับภาษีรถคันแรกคืนจัดแคมเปญเพื่อส่งเสริมการ ขาย  และเงื่อนไขและข้อเสนอที่ดีของสถาบันการเงิน จึงทำให้รถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสอง มีราคาที่ใกล้เคียงกัน  และรถใหม่บางรุ่นก็ถูกกว่าราคารถมือสองที่ซื้อเข้าเต๊นท์เสียอีกจึงส่งผลให้ ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อรถใหม่มากกว่า  จึงทำให้รถมือสองนั้นค้างสต๊อกมาจนถึงตอนนี้เลยค่ะ และอีกหลายๆสาเหตุที่เป็นปัจจัย ให้ตลาดรถมือสองนั้นมีแนวโน้มที่แย่ลงอย่างมาก  ในส่วนของ ไฟแนนซ์ ส่วนใหญ่ได้รับผลสรุปว่ามียอดการยึดรถถึง เท่าจากปีที่ผ่านๆมาเลยนะคะ ทำให้มียอดจำนวนรถมือสองเข้าเต๊นท์รถและตลาดรถเพิ่มขึ้นตามมาด้วย และอีกปัจจัยที่ทำให้รถยนต์มือสองนั้นเพิ่มจำนวนในตลาดเป็นอย่างมากก็คือ ผู้เขาร่วมโครงการรถคันแรกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดของรถใหม่ ได้ จึงทำให้มีการขายเข้าตลาดรถมือสองเป็นจำนวนมาก  แต่การขายออกของตลาดรถมือสองน้อยลง จึงทำให้ผู้ประกอบธุรกิจตลาดรถมือสองหายไปจากตลาดเป็นจำนวนมาก  เนื่องจากรถมือสองค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก  เมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องปรับราคารถให้ต่ำลงเพื่อได้ค่อยๆ ทะยอยปล่อยรถออก จึงทำให้ขาดทุนและปิดกิจการไป(บ้าง)

                แต่อย่างไรก็ตามทั้งนี้ผู้ประกอบการธุรกิจรถ มือสองส่วนใหญ่ก็มีวิธีการปรับตัวได้ไปตามสถานการณ์เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจและคาดว่าในอีกไม่นาน ธุรกิจรถยนต์มือสอง จะฟื้นฟูขึ้นมาได้ตามค่ะ
                จากที่กล่าวมาทั้งหมดนะคะ วิกฤติรถมือสองยังส่งผลกระทบไปกับอีกหลายๆด้านนะคะ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจราจรติดขัด ปัญหาที่จอดรถในตลาด ในห้าง หรือแม้กระทั้งในซอยหมู่บ้าน เราอาจเห็นว่าเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยนะคะ แต่คิดดูดีๆแล้ว สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเราได้(เริ่มเครียดอีกแล้ว....)

                ทิ้งท้ายเลยแล้วกันนะคะ
น้องณีก็ขอฝากไว้ เรื่องการใช้รถใช้ถนน ช่วงนี้ก็ยังมีฝนตกอยู่ ก็ขอให้ใช้ความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฏจราจรก็แล้วกันนะคะ ไม่ต้องรีบร้อนไปไหน เพราะยังไงๆก็ถึงที่หมายอยู่ดีค่ะ ..  แล้วก็อย่าลืมอีกเรื่องหนึ่ง หากมีปัญหาเรื่อง ขาดเงินทุนหมุนเวียน หรือจะซื้อรถมือสอง ก็ปรึกษาได้นะคะ ที่สินปราณีลิซซิ่งทุกสาขา หรือสอบถามได้ทางอีเมล์ mkt@hotleasing.com หรือ 053-343850 และ 090-471-3589
ขาดเงินทุนหมุนเวียน ปรึกษาหมู่เฮาจาวเหนือ
น้องณี.